เกี่ยวกับ Fablab


หลักการและเหตุผล

    สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มีพันธกิจหลักในการพัฒนากำลังคน ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน สวทช. สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปที่หลากหลายทั้งในด้านรูปแบบโครงการและช่วงวัยของคน โดยมีการทำงานกับเครือข่ายพันธมิตร ทั้งในพื้นที่ต่างๆ และที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย

Image

    ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนนักวิจัยให้เป็น ๒๕ คนต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คนจากปัจจุบันที่มีเพียง ๑๓ คน เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการการพัฒนาของประเทศบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ได้อย่างเพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านวทน. เพื่อมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสู่ ประเทศไทย ๔.๐ อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างเร่งด่วน โดยที่ผ่านมาสวทช.ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ผ่านโครงการ STEM (Science, Technology, Engineering and Mathematics) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการเรียนการสอนที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ สร้างความตระหนักและความรู้ด้าน STEM แก่เด็กและเยาวชน รวมถึงสร้างกำลังคนที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานอาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดด้านทรัพยากร ทำให้ ยังไม่สามารถขยายผลการดำเนินงานให้ได้บุคลากรวทน.ที่เป็นมวลวิกฤต (critical mass)

    ในกลุ่ม “บุคลากรวทน.”นั้น วิศวกรเป็นกลุ่มหนึ่งที่สำคัญที่สามารถช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประเทศไทยเป็นประเทศไทยโดยเป็นกำลังสำคัญที่จะเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาวทนของประเทศ จากการนำเข้าเทคโนโลยีมาเป็นการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรมใหม่ จากผลการสำรวจ “ภาพรวมตลาดแรงงานไทยปี ๒๕๕๗ รวมถึงปัจจัยที่ทำให้พนักงานอยากอยู่ต่อกับองค์กรหรือมองหางานใหม่” พบว่าวิศวกรเป็นหนึ่งในสาขาอาชีพในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้สมัครไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งสายงานวิศวกรนี้มีความต้องการจ้างงานสูงเป็นอันดับหนึ่ง คือ ร้อยละ ๑๗๑ แต่จำนวนผู้สมัครมีเพียงร้อยละ ๖๖ เท่านั้น

Image